ผิดหรอ ที่เลือกชีวิตที่ดีกว่า

สิ่งที่เราจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่ทำให้เราสับสนและรู้สึกผิดมาก จนไม่รู้จะทำยังไงดี เลยอยากมาขอความคิดเห็นของเพื่อนๆในพันทิป ต้องขอโทษล่วงหน้านะคะ ถ้าไม่ได้เล่าทีเดียวจบ

          ขอแทนตัวเองว่า “น้ำ” และแฟนเก่าเรา “อาร์ม” นะคะ เรากับอาร์มคบกันมาเกือบ 5 ปี คบกันตั้งแต่สมัยเข้ามหาลัยใหม่ๆ เราสองคนค่อนข้างที่จะผูกพันกันมาก ตัวติดกันแทบตลอดเพราะอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเพื่อนกัน ในช่วงแรกๆที่คบกันเราเป็นคู่ที่เพื่อนๆหลายคนอิจฉามาก มีแต่คนคิดว่าคู่ของเราต้องได้แต่งงานกันแน่ๆ

         เราไม่รู้ว่าคนอื่นๆเป็นมั้ย แต่เวลาที่ได้ยินประโยคที่ว่า “แต่งงานแล้วอย่าลืมร่อนการ์ดมาด้วยนะ” มันทำให้เราตื้นตันใจ ยิ้มไม่หุบยังไงไม่รู้ รู้สึกว่าโลกนี้เป็นสีชมพู๊ชมพู แบบ Poppy love อ่ะค่ะ ชีวิตเราสองคนเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้ว่าไม่ได้หวือหวา แต่เรียกได้ว่าไม่มีอุปสรรค  
    
         แต่พอมาปีที่ 4 เราย้ายกลับมาอยู่บ้าน เพราะปี 4 เรามีเรียนไม่ค่อยเยอะ เราเก็บหน่วยกิตไปเกือบหมดแล้วเหลือไม่กี่ตัว เลยทำงานไปเรียนไป แล้วทีนี้งานที่เราทำมันไม่ใช่งานพาร์ทไทม์ มันเป็นงานพนักงานประจำ วันไหนที่เรามีเรียนเราก็ไปเรียนตามปกติค่ะ แต่เราต้อง Manage เวลาให้ได้ ซึ่งมันค่อนข้างที่จะหนักมาก เราเลยได้เจอกับอาร์มน้อยมาก แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาระหว่างเรากับอาร์มเลยค่ะ ส่วนอาร์มก็มีทำงานเสริมบ้าง รับ Freelance บ้างค่ะ แต่เขาเป็นคนติดเพื่อน ติดเกม เรามารู้ทีหลังว่าเขาหมดเงินไปกับเกม กับการสังสรรค์ไปเยอะมาก แต่ด้วยเราสองคนไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกันเท่าไหร่ คือให้แต่ละฝ่ายมีพื้นที่ส่วนตัว เราเลยคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร เกม บอล สังสรรค์ มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายอยู่แล้ว ตอนนั้นเราคิดแบบนั้นจริงๆ  
  
          พอเรามีโอกาสได้ทำงาน เราก็มีเงินมากขึ้น เราเก็บเงินได้ก็เข้าธนาคารตลอด จะแบ่งเก็บไว้ใช้ในแต่ละวันไม่มาก เราค่อนข้างที่จะเป็นคนประหยัด  ในอนาคตเราอยากมีเงินเก็บซักก้อนไปลงทุน เราเลยเริ่มประหยัดมากขึ้น เราบอกก่อนว่าปกติเวลาเราไปไหนมาไหนกับอาร์ม ไม่ว่าจะกินข้าว ดูหนัง ปกติเราจะใช้วิธีอเมริกันแชร์ค่ะ แบ่งกันจ่าย ซึ่งเราถือว่าเป็นเรื่องปกติที่คนส่วนใหญ่ก็ทำกัน จนมาหลังๆ อาร์มเริ่มพูดว่า “มื้อนี้เธอออกไปก่อนนะ” ตอนนั้นเราก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ แต่หลังจากนั้นมันเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เริ่มบ่อยขึ้นๆ เราเริ่มเอะใจ แต่ก็คิดว่าเค้ายังเรียนอยู่ยังไม่ได้ทำงานแบบเราก็เลยมองข้ามมันไป จนเพื่อนเราเริ่มสังเกต ก็มีเตือนๆเราว่า “อาร์มมันเริ่มจะเกาะป่ะวะน้ำ” ตอนนั้นเราคิดว่า ไม่หรอกมั้ง อาร์มมันก็ไม่ใช่คนแบบนั้นซักหน่อย หรือว่าอาร์มจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า เราก็ตัดสินใจถามอาร์ม อาร์มก็ยืนยันว่าไม่มี เราก็เลยไม่ซักต่อ เราไม่อยากทะเลาะกันใหญ่โต เลยให้เรื่องมันเงียบๆไป หลังจากนั้นส่วนใหญ่เวลาไปไหนด้วยกันก็เป็นเราเนี่ยแหละค่ะที่ออกเงิน

        พอจบมหาวิทยาลัยเราโชคดีที่ไม่ต้องร่อนใบสมัครงาน ก็ทำที่เดิมที่เคยทำอยู่แล้ว มีแต่อาร์มที่เราเป็นกังวล เพราะเค้าดูไม่สนใจอะไรเลย มีแต่เราเนี่ยแหละที่เป็นคนจัดการส่งใบสมัครไปบริษัทต่างๆให้เค้า ทำตารางนัดวันสัมภาษณ์ให้เค้า จัดเตรียมให้หมด วางแผนให้หมดทุกอย่าง ตอนนั้นเราเหนื่อยมาก ไหนจะจัดการชีวิตตัวเอง  ไหนจะเรื่องของอาร์มอีก แต่เราก็คิดว่า ทำให้คนที่เรารักจะเป็นไรไป เราทนค่ะ ทนเพราะเราคิดว่าเรารักเค้า

           แต่มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนที่ทำงานเนื่องจากเหตุผลที่เราขอไม่กล่าวถึงนะคะ ทำให้เราได้เจอ พี่ที่ทำงานคนหนึ่ง

                                                                  เดี๋ยวมาต่อนะคะ ขอไปสะสางงานสักครู่ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่